ตรุษจีน 2561 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561
วันจ่าย-วันไหว้-วันเที่ยว ตรุษจีน 2561 ตรงกับวันไหนบ้าง?
วันจ่าย (ตื่อเส็ก) ตรงกับวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561
วันไหว้ ซึ่งจะถือว่าเป็นวันสิ้นปีของทางจีน คนจีนไหว้เทพเจ้าต่างๆ กับวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560
วันเที่ยว (ชิวอิก) หรือวันปีใหม่ของจีน จะตรงกับวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561
จะเป็นวันที่คนจีนจะ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ที่สวยงาม จะออกเดินทางไปเป็นครอบครัวเพื่อไปไหว้ขอพรผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือพากันออกไปท่องเที่ยว และเป็น “วันถือ” ที่ถือว่า วันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวง
ตรุษจีนเราควรใส่เสื้อสีอะไร ชาวจีนส่วนใหญ่นิยมใส่สีแดง แต่ยังมีสีเสื้อผ้าอีกมากมาย แต่ละสีมีความหมายแตกต่างกัน ลองอ่านดูสิค่ะ ปีนี้อาจค้นพบสีที่เหมาะกับใส่เที่ยวตรุษจีน
สีแดง
ชาวจีนมีความผูกพันกับสีแดงในแง่ดี มาตั้งแต่เริ่มแรก สีแดง คือแห่งความเป็นมงคล เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไฟ ความสว่างไสวในยามมืดมิด คือความอบอุ่นในยามหนาว เป็นไฟที่ลุกโชน รุ่งเรืองโชติช่วง พลังอำนาจ ความร้อนแรงของไฟสามารถเผาผลาญ ความชั่วร้ายหรือสิ่งที่ไม่ต้องการให้มอดใหม้ไป
ในทางจิตวิทยา สีแดงมีผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ กระตุ้นให้เกิดความแจ่มใส สดใส และจิตใจที่กระตือรือล้น ย่อมส่งผลดีต่อการสร้างสรรค์ในการทำงาน หรือเมื่อเปรียบเทียบในทาง ฮวงจุ้ย อาจจะหมายถึงการเตือนภัย ป้องกันภัยอันตรายที่ไม่ดี
สีเหลือง สีทอง
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุดิน ซึ่งหมายถึง ความเป็นปึกแผ่นมั่นคง ทั้งในแง่ของอารมณ์ความรู้สึกและชีวิตความเป็นอยู่ ความเจริญรุ่งเรือง เป็นเครื่องหมายของ จักรพรรดิ จะสังเกต ได้ว่ากษัตริย์จีน จะแต่งองค์ด้วยชุดสีเหลือง และมีสีทองเป็นส่วนประกอบในทางจิตวิทยา สีบอกถึงความบริบูรณ์ กระปรี้กระเปล่า พลังแห่งความหวัง
ความหมายในเชิงของ ฮวงจุ้ย ทำให้เห็นว่าความสดชื่นรื่นเริง ความหวังเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เมื่อประชาชนรักในกษัตริย์ของตนเอง จึงต้องการให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับบุคคลที่ตนรักเช่นกัน ต่างกันตรงที่สีเหลืองในทางฮวงจุ้ย เป็นสิ่งที่สูงส่งห้ามใช้ในบางกรณี เพราะต้องสงวนให้กษัตริย์เท่านั้น
สีเขียว
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไม้ ซึ่งมีความหมายด้วยการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจริญงอกงามนำความรุ่งเรืองสดใสมาสู่กระแสชี่ที่ไหลเวียนอยู่โดยรอบในทาง จิตวิทยา สีเขียวเป็นสีของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์เมื่อมองดูจะให้ความรู้สึกสดชื่นของธรรมชาติ ดูเหมือนว่าสีเขียวจะแทนธรรมชาติที่ดีๆโดยรวม สีเขียวช่วยบำบัดความเคร่งเครียดได้ไม่ว่าจะเป็นการประดับตกแต่งสถานที่ด้วย ต้นไม้ก็จะส่งผลไม่ต่างกัน
สีม่วง
สีโทนม่วงทั้งหมดนั้นมีความเป็นมงคลใกล้เคียงกับสีแดง เชื่อว่าสีม่วงดูทรงพลังและ หนักแน่นมากกว่าสีแดง ถึงกระนั้นสีม่วงก็ยังไม่สูงส่งเท่ากับสีเหลือง หรือสีทองเพราะชนชั้นที่นำเอาสีม่วงไปใช้นั้นเพียงผู้มีอำนาจเท่านั้น จุดประสงค์ที่นำเอาสีม่วงมาใช้ เพื่อเสริมให้เกิดความมั่งคั่งบริบูรณ์ เพิ่มอำนาจวาสนามากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในทางจิตวิทยา สีม่วงหมายถึงความลึกลับ อำนาจแห่งเสน่ห์ ซึ่งแตกต่างกับ ทางฮวงจุ้ย ถึงแม้ว่า ฮวงจุ้ยจะยกย่องสีม่วงเป็นสีแห่งมงคล โชคลาภและอำนาจ ก็ตาม แต่ก็เป็นอำนาจโดยรวม ไม่ใช่อำนาจที่เกิดจากเสน่ห์
สีดำ
เป็นสัญลักษณ์แทนธาตุน้ำ ทำให้มีคุณสมบัติลึกลับไม่แน่นอนแต่สามารถอยู่หลอมรวมกับทุกสิ่งได้มีทั้ง พลังอำนาจและความอ่อนไหวไปพร้อมๆ กัน ให้ทั้งคุณประโยชน์มากมาย และยังสามารถนำมาซึ่งภัยพิบัติที่ยากจะประเมินค่าได้ดังนั้น สีดำจึงหมายถึงความคลุมเครือไม่แน่นอนเช่นเดียวกับกระแสน้ำ หมายถึงความลึกล้ำที่ยากจะหยั่งถึง
ในทางจิตวิทยา สีดำเป็นสีที่เร้นลับ เคร่งขรึม โศกเศร้า ในกรณีของความลึกลับซับซ้อนนั้นไม่ใช่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของผู้คนนัก และเหตุที่ความลึกของ สายน้ำเป็นสิ่งที่ลึกล้ำเกินหยั่ง ดังนั้น ฮวงจุ้ย จึงได้นำเอาสีดำมาเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุน้ำ ถึงแม้ว่าสีดำจะให้ความรู้สึกลึกล้ำยาก เกินหยั่ง แต่อีกแง่หนึ่งก็ให้ความ รู้สึกสงบนิ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสายน้ำนั่นเอง
สีเทา
สีเทาเป็นส่วนผสมระหว่างสีดำและสีขาว ซึ่งทำให้มันไม่สามารถหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ด้วยเหตุนี้ จึงแทนความหมายความ ไม่ชัดเจน และเหตุที่มันมีสีเดียวกับเมฆฝน จึงทำให้สีเทามีความหมายไปทางหม่นหมองหดหู่สิ้นหวังดังคำกล่าว ที่ว่าเมฆฝนเปรียบได้กับช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วย อุปสรรคและปัญหา ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่เมฆฝน ลอยผ่านพ้นไปจากชีวิตแต่ว่ายังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เชื่อว่าสีเทายังมีแง่ดี อยู่บ้าง นั่นคือความสงบและความสมดุลย์
ด้วยว่ามันเป็นส่วนผสมของ ขาวและดำที่เท่ากันในทางจิตวิทยา หมายถึงความสงบนิ่งและเดียวดาย จะตรงกันกับ ฮวงจุ้ย ก็คือความสงบ อาจจะเพราะสีเทามีความเป็นกลาง การเพ่งมองสีอ่อนนานๆ ทำให้จิตใจสงบ
สีน้ำตาล
เป็นสีแทนความอบอุ่นมั่นคงไปด้วยหลักทรัพย์ เป็นสีเดียวกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บ่งบอกถึง อดีตอันยาวนาน และประสบการณ์ที่ผ่านมา ดังนั้น มันจึงกลายเป็น สัญลักษณ์ของผู้สูงอายุตามไปด้วย ความสุขุมเยือกเย็นยังเป็นเอกลักษณ์ของสีน้ำตาลด้วยเช่นกันในทางจิตวิทยา สีน้ำตาลทำให้รู้สึกแห้งแล้ง ความเห็นพ้องระหว่าง ฮวงจุ้ย กับจิตวิทยาคือความอบอุ่นหากนำสีที่เพิ่มความสดใส ในสัดส่วนที่เหมาะสม ก็จะได้ความ อบอุ่นมั่นคงสามารถลดความแห้งแล้งได้
สีส้ม
สีส้มเป็นสีที่เดียวกับสีน้ำผึ้ง เพราะได้รวมเอาสีแดงคือความรุ่งโรจน์ พลังอำนาจและความเป็นมงคลและความมั่งคั่งความหวังรุ่งเรืองของสีเหลืองในทางจิตวิทยา หมายถึงการฟื้นตัวและพลังชีวิตเพราะว่าสีส้มรวมเอาสีแดงและเหลืองไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกในแง่ดี
สีชมพู
คือความสดใสบริสุทธิ์ของวัยสาว ความรักอันบริสุทธ์ ความเบิกบาน ความคิดและจิตวิญญาณที่ปราศจากจริตมายาในทางจิตวิทยา สีชมพูบอกถึงความละมุนละไมความอ่อนเยาว์สดใส ซึ่งพิจารณาดูแล้วสอดคล้องกับสิ่งที่ ฮวงจุ้ย ได้บอกไว้ว่าเป็นสีแห่งความอ่อนหวานแล้ว การเลือกสีชมพูสำหรับเด็กผู้หญิงนั้น เสมือนการอวยพรให้เด็กเป็นคนที่อ่อนหวาน งดงามน่ารักบริสุทธิ์
สีชมพูโอรส
สีโอโรส จึงมีความมีเสน่ห์ และมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีมิตรสหายมาก สีโอรสในที่นี้หมายถึงสีของดอก ท้อนั่นเอง ในทางจิตวิทยา วิเคราะห์ได้ว่าได้รวมเอาคุณลักษณะทั้ง 3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนหวานของสีชมพู ความสดใส ความปรารถนา ของสีเหลือง และความร้อนแรง มีพลังของสีแดง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ ฮวงจุ้ย จะตีความไว้เช่นนั้น
เนื่องจากเป็นสีที่มีส่วนประกอบด้วย สีชมพู และสีส้มเล็กน้อย หากเป็นสีชมพูล้วนๆ ก็หมายถึงความบริสุทธิ์น่ารัก แต่เมื่อสีโอโรสมีสีส้ม เจือด้วยจึงทำให้ความรักอันบริสุทธิ์เปลี่ยนเป็นรักที่ทรงพลัง อำนาจแห่งความปรารถนา แรงดึงดูดแห่งรัก อำนาจแห่งเสน่ห์ มันจึงไม่เป็นมงคลนัก หากจะนำสีดังกล่าวมาตกแต่งห้องนอนของคู่บ่าวสาวเชื่อกันว่าจะส่งผลให้เกิด รักสามเส้าใครบางคนอาจตกหลุมรักหรือติดบ่วงเสน่ห์ผู้ที่ไม่ใช่คู่ครอง ของตนสำหรับวัยหนุ่มสาวที่ยังไม่มีครอบครัว
สีฟ้า
ชาวจีนมักจะมองสีฟ้าว่าเป็นสีแห่งการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตเฉกเช่นเดียว กับสีเขียว มีไม่น้อยที่คิดว่าสีฟ้าเป็นสีแห่งฤดูใบไม้ผลิ การสวมชุดสีฟ้า ในช่วงเวลา ดังกล่าวจึงเป็นเสมือนการต้อนรับฤดูกาลใหม่
แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ไม่นิยมสีฟ้าเนื่องเพราะคิดว่าสีฟ้าเป็นสีแห่งความโศกเศร้า น่าจะเป็นเพราะเป็นสีอยู่ในโทนอ่อน มีความเข้มของสีน้อยขาดความโดดเด่น ไม่มีผลในการกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น เช่นเดียวกับสีเข้มๆ บางสี เช่นสีแดงนั่นเอง
สีเขียวอมฟ้า
สีเขียวเป็นสัญลักษณ์แทนธาตุไม้ ดังนั้น มันจึงหมายถึงความเจริญเติบโตหรือการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า สีแทนความหม่นหมอง แต่เมื่อมันมาอยู่รวมกันก็จะเกิดความหมายใหม่ที่ดีๆ เพราะสีเขียวอมฟ้านั้นไปพ้องกับสีของใบไผ่ เป็นไม้มงคลของชาวจีน ชาวจีนมีความเชื่อว่าสีเขียวอมฟ้าเป็นสีแห่งความ อ่อนเยาว์ในทางจิตวิทยา ได้รวมเอาคุณลักษณะของหลายสีเข้าด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำเงิน สีขาว แม้สีฟ้าจะถูกมองว่าหม่นหมอง แต่เมื่อได้ความสดใสจากสีเหลือง เข้ามาช่วยแล้ว ก็ทำให้สีเขียวอมฟ้าช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกให้สดชื่นได้
MissyBra ขอขอบคุณ ข้อมูลจากบทความ the-than.com ซึ่งนำมาตัดตอนและเรียบเรียงใหม่